loading...

หลังจากสาว “วุ้นเส้น วิริฒิพา” ได้ออกมายอมรับว่ามีทะเลาะ และแยกบ้านกันอยู่กับหนุ่ม “ชาคริต แย้มนาม” แล้วจริงๆ ด้วยสาเหตุเป็นเรื่องของเวลาที่ไม่ตรงกัน งานนี้ทางฝั่งของหนุ่มชาคริต จะว่าอย่างไร ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาอัพเดทถึงเรื่องราวภายในครอบครัวมาว่า…
” ดีดี ไม่มีอะไร เวลามันลงมันก็มีขึ้น คนเราเรื่องกระทบกระทั่งมันมีทุกคู่ มันเป็นเรื่องของอารมณ์ แต่เมื่อเราลองย้อนกลับไปมองภาพรวม เฮ้ยเรารักกัน มันก็ต้องดีขึ้นอยู่แล้ว เราคุยกันตลอด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสัจธรรมชีวิต ก็ต้องขอบคุณข่าวเหมือนกัน พอมันมีแบบนี้ออกไปก็ทำให้เราคิดว่ามันชักเริ่มไปกันใหญ่แล้ว พอลองย้อนกลับมาดูก็เลยคิดว่าแล้วจะทะเลาะกันไป เราก็รักกันดีกว่า ถ้านับจริงๆช่วงเวลาแห่งความสุขมันมีมากกว่าเยอะ คนเราพอเหนื่อยล้าจากงาน มันก็มีล้า มีเรื่องเอาแต่ใจกันบ้าง แต่สุดท้ายคือคนเรารักกันก็หนีกันไม่พ้นอยู่แล้ว เราเจอกันทุกวันแต่เมื่อวานไม่เจอเพราะติดถ่ายรายการ เรื่องถ่ายรูปปกติเราเจอกันก็ถ่ายตลอดนะ แต่ไม่ค่อยได้อัพ นอกจากไปเที่ยวเมืองนอกจริงๆถึงจะถ่ายลง เพราะทุกวันนี้อยู่แต่หน้ากล้อง มันไม่มีอะไรตื่นเต้น เดี๋ยวเดืนหน้าก็มีไปเที่ยว คงได้อัพครับ

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องง้องแง้งกัน เป็นเรื่องปกติของทุกคู่ ที่ว่ามีลงก็ต้องมีขึ้น ด้วยหน้าที่ของผมตอนนี้มันไม่ใช่แค่งาน ไม่ใช่เรื่องคู่ครองอย่างเดียว มันมีคุณแม่ด้วย ก็ต้องทดแทนบุญคุณต่อบุพการีด้วย ซึ่งสำคัญที่สุด เค้าให้กำเนิดเรา เค้าเลี้ยงเรามา เวลาเค้าป่วยเราก็ต้องดูแล ขอโฟกัสตรงนี้เป็นหลัก
ส่วนกระแสวิจารณ์ ผมว่าเรารู้จักกันมานานแล้วนะ ยืนอยู่ตรงนี้ คนรักก็มี คนที่อยากโจมตีมันก็คงมี จริงๆดูวิถีการใช้ชีวิตก็น่าจะรู้แล้ว ทำงานกลับบ้านทุกวัน ดูแลแม่ ก็คงไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว ชีวิตผมไม่มีอะไรเลย ทำงานอยู่ตรงนี้มานาน ระยะเวลาก็เป็นตัวบอกเองทุกครั้ง แต่ก็อยากให้ช่วยเบรคๆบ้าง เพราะมันมีผลกระทบต่อครอบครัว ต่อคุณแม่ผม สนุกปาก สนุกนิ้วที่จะพิมพ์จะเขียนอะไรกัน ก็คิดกลับกันไปสักนิดว่าถ้าเป็นคุณแล้วจะรู้สึกอย่างไร มันเป็นเรื่องของคน 2 คน มันไม่มีอะไรหรอก อย่ามโนกันไปเยอะ เรื่องที่จะรักสนุกอะไรนั่นมันเป็นเรื่องเก่าไปแล้ว เราอายุมาถึงขนาดนี้เราผ่านมาหมดแล้ว ใครจะมาบอกกินเหล้านั่นนี่ ผมใช้ชีวิตมาถึงอายุ 38 ถ้าบอกไม่เคยก็คงตลก แต่มันก็เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่ทุกคนต้องผ่าน แต่เรามาถึงขนาดนี้แล้วจะมาทำตัวอีเหละเขะขะ ติดรักสนุกอีกเนี่ยผมว่า ผมใช้ชีวิตมาคุ้มเกินคุ้มแล้ว คงไม่ต้องกลับไปคิดถึงมันขนาดนั้น

ผมกับวุ้น มันเป็นช่วงจังหวะของชีวิตหนึ่ง มันไปกำหนดอะไรไม่ได้ มันต้องมีเทคไทม์กันบ้าง คนมันรักกันมันหนีไม่พ้น มันก็ต้องกลับมาดีอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากความรัก การที่เราแยกกันอยู่ถามว่ามันจะยิ่งแย่ไหม ผมว่าคนเราเวลามันมีจุดประสงค์จะทำอะไร มันต้องมั่นคงในจุดประสงค์ ทุกคนมันมีอารมณ์รักอิสระ ถ้าเราต้องการอิสระในชีวิต แต่ผมไม่ได้ต้องการ และผมก็คงไม่ติดสุขกับการมีอิสระในชีวิต เพราะชีวิตผมนอกจากทำงานทุกวัน ว่างก็กินข้าวดูหนังกับภรรยา เพราะฉะนั้นชีวิตทุกวันนี้ถามว่าเปลื่ยนไหม ไม่ได้เปลื่ยนเยอะ เพราะสุดท้ายถ้าจะเทียบมันก็แค่เปลื่ยนที่นอน ไปเที่ยวอะไรก็เหมือนเดิมปกติ ”

loading...